วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ขนมปังสังขยา



ส่วนผสม

ขนมปังแผ่น                         5 แผ่น
แป้งข้าวโพด                        2 ช้อนโต๊ะ
แป้งสาลี                               1 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ (เอาแต่ไข่แดง)           5 ฟอง
หัวกะทิ                                  1 ถ้วยตวง
น้ำตาลปี๊บ                           1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย                         2 ช้อนโต๊ะ
นมข้นจืดระเหย                    1/2 ถ้วยตวง
เหลือป่น                              1/4 ช้อนชา
ใบเตย                                  10 ใบ
น้ำเปล่า                                1/2 ถ้วยตวง





วิธีทำ
  • นำใบเตย 7 ใบมาหั่นตามขวางเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ลงไปในเครื่องปั่น ใส่น้ำ 1/2 ถ้วย ปั่นให้ละเอียด แล้วใช้ผ้าขาวบางกรองเอาแต่น้ำ
  • ผสมแป้งข้าวโพด แป้งสาลี เกลือป่น น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ ไข่แดง และน้ำใบเตยมัดเป็นปม 3 ใบ มาขยำให้น้ำตาลละลาย เอาใบเตยออกใส่น้ำกะทิ น้ำใบเตย นมข้นจืดระเหย คนให้เข้ากัน ยกขึ้นตั้งไฟอ่อนๆ กวนจนแป้งสุกข้นเหนียว ยกลงตักใส่ถ้วย ราดด้วยนมข้นจืด
  • ตัดขนมปังเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมพอดีคำ แล้วนำไปนึ่งในลังถึง หรืออุ่นในไมโครเวฟให้อุ่นนุ่ม นำมาจิ้มสังขยารับประทานอุ่นๆ


วันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ข้าวเหนียวสังขยา



ส่วนผสม

ข้าวเหนียวเขี้ยวงู                 2 ถ้วยตวง
ไข่ไก่                                   4 ฟอง
หัวกะทิ                                2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย                     1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลปี๊บ                         1/2 ถ้วยตวง


วิธีทำ

  • ข้าวเหนียวเเช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน นำมานึ่งให้สุกแล้วเทใส่ภาชนะ ผสมหัวกะทิ 1 ถ้วยกับน้ำตาลทรายให้เข้ากัน ยกตั้งไฟให้กะทิแตกมัน ยกลงมาทยอยราดลงบนข้าวเหนียวทีละน้อย ใช้มือคลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้
  • ตอกไข่ใส่ภาชนะ ใส่น้ำตาลปี๊บ คนให้น้ำตาลละลาย ใส่หัวกะทิ 1 ถ้วย คนให้เข้ากัน กรองให้เข้ากันอีกครั้งโดย นำถ้วยที่จะใช้นึ่งมารองก้นกระชอนไว้ เทส่วนผสมใส่กระชอน ใช้ทัพพีกวนให้ส่วนผสมผ่นกระชอนลงไปอยู่ในถ้วย นำใส่ลังถึงนึ่งให้สุก ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ยกลงพักไว้ให้เย็น
  • วิธีรับประทาน ตักข้าวเหนียวมูนใส่ถ้วย ใช้ช้อนตักหน้าสังขยาออกมาเป็นแผ่นๆ วางลงบนข้าวเหนียว รับประทานได้เลย

ข้อแนะนำ

ถ้าทำขายให้ใช้ใบตองทำเป็นห่อๆ


หมูปั้นมันบด


ส่วนผสม

หมูบด                                          1 ถ้วยตวง
มันฝรั่ง                                      1/2 ถ้วยตวง
(ต้มให้เปื่อยแล้วบดละเอียด)
วุ้นเส้น                                       1/2 ถ้วยตวง
(แช่น้ำให้นิ่มแล้วหั่นเป็นเส้นยาว 1 ซม.)
หอมใหญ่สับหยาบๆ                       1 ช้อนโต๊ะ
รากผักชี, กระเทียม, พริกไทย         1 ช้อนโต๊ะ
(โขลกละเอียดรวมกัน)
ไข่ไก่                                             1 ฟอง
(ตอกใส่ถ้วยแบ่งใส่หมู 1/2 , ใช้ชุป 1/2 ฟอง)
แป้งข้าวโพด                                    1 ช้อนโต๊ะ
ผงปรุงรส                                       1/2 ช้อนชา
พริกไทยป่น                                   1/2 ช้อนชา
เกลือป่น                                        1/4 ช้อนชา
แป้งสาลี                                           1 ถ้วยตวง
เกล็ดขนมปัง                                    1 ถ้วยตวง
น้ำมันพืช                                          2 ถ้วยตวง
มายองเนส, ซอสมะเขือเทศ


วิธีทำ

  • ผสมหมูบดกับรากผักชี กระเทียม พริกไทย หมักทิ้งไว้ 10 นาที แล้วใส่มันฝรั่งบด วุ้นเส้น หอมใหญ่ แ้ป้งข้าวโพด ผงปรุงรส พริกไทยป่น เกลือป่น ไข่ไก่ 1/2 ฟอง คนให้เข้ากัน แล้วปั้นเป็นก้อนกลมๆ ขนาดลูกปิงปองนำไปคลุกแป้งสาลี แล้วชุบไข่ แล้วคลุกเกล็ดขนมปัง ใช้มือกดๆเกล็ดขนมปังให้ติด แล้วกดทรงกลมให้แบนเล็กน้อย ปั้นเตรียมไว้ให้เสร็จหมดแล้วค่อยนำไปทอดในน้ำมัน (ไฟปานกลาง ให้เหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน รับประทานอุ่นๆ จิ้มกับมายองเนศและซอสมะเขือเทศ


แซนด์วิชทูน่า



ส่วนผสม

เนื้อปลาทูน่า (ยีละเอียด)                2 ถ้วยตวง
หอมใหญ่สับ                                1/2 ถ้วยตวง
แครอทสับ                                   1/2 ถ้วยตวง
เกลือ                                           1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย                               1/2 ถ้วยตวง
เนย                                                1 ช้อนโต๊ะ
ซอสมะเขือเทศ                             1 ช้อนโต๊ะ
ขนมปังแผ่น                                  8 แผ่น
ผักกาดหอม                                  4 ใบ
ข้าวโพดต้มสุกแกะเม็ด
สับประรสสับเป็นชิ้นเล็กๆ
เม็ดถั่วลันเตาลวก


วิธีทำ

  • นำกระทะตั้งไฟ ใส่เนยพอละลาย นำหอมหัวใหญ่ลงไปผัดให้หอม ใส่ปลาทูน่า แครอท ข้าวโพด สับประรส เม็ดถั่วลัดเตา แล้วปรุงด้วยเกลือ น้ำตาล ซอสมะเขือเทศ ผัดให้เข้ากัน ตักขึ้นพักไว้ให้เย็น
  • นำไส้ทูน่าที่ผัดไว้ทาขนมปัง 1 แผ่น แล้ววางผักกาดหอมนำขนมปังอีกแผ่นมาทาไส้แล้วประกบกับแผ่นแรก รับประทานได้เลย

ข้อเสนอแนะ

สามารถใช้ครัวซองค์แทนขนมปังได้ โดยผ่าครึ่งตามยาว (แต่อย่าให้ขาดออกจากกัน) แล้วนำไส้และผักยัดไว้ข้างใน




วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

นักเก็ตไก่



ส่วนผสม

เนื้อไก่บดละเอียด                            3 ถ้วยตวง
แป้งข้าวโพด                                    1 ช้อนโต๊ะ
ผงปรุงรส                                       1/2 ช้อนชา
พริกไทยป่น                                   1/2 ช้อนชา
เกลือป่น                                        1/4 ช้อนชา
แป้งสาลี                                           1 ถ้วยตวง
ไข่ไก่                                                1 ฟอง
น้ำมันพืช                                          2 ถ้วยตวง
ซอสมะเขือเทศ , มายองเนส ตามชอบ


วิธีทำ
  • ผสมเนื้อไก่ แป้งข้าวโพด ผงปรุงรส พริกไทยป่น เกลือป่น คลุกเคล้าให้เข้ากันจนเหนียวปั้นได้ นำมาปั้นเป็นก้อนสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบนๆ (ประมาณ 3x4 ซม.) ปั้นให้จนหมดจากที่ผสมเนื้อไก่ไว้
  • ตอกไข่ใส่ถ้วย นำไก่ที่ปั้นไว้ชุบไข่แล้วคลุกเคล้ากับแป้งสาลีให้ทั่ว (ชุบไข่แล้วคลุกแป้งสาลีไว้ให้ครบทุกชิ้นก่อน) แล้วค่อยนำลงทอดในน้ำมันให้เหลืองกรอบนอกนุ่มใน ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน รับประทานกับซอสมะเขือเทศ หรือมายองเนสตามชอบ


ผักเทมปุระ



ส่วนผสม

แป้งชุบทอดสำเร็จรูป หรือแป้งสาลี               2 ถ้วยตวง
เกลือป่น                                                      1/2 ช้อนชา
น้ำเย็นจัด                                                       1 ถ้วยตวง
น้ำจิ้มไก่ หรือซอสมะเขือเทศ (ตามชอบ)
ผักต่างๆ (ตามชอบ หรือตามแต่จะหาได้) เช่น

  • แครอท มันฝรั่ง ฟักทอง เผือก ถั่วฝักยาว หน่อไม้ฝรั่ง หั่นเป็นชิ้นยาวๆ
  • พริกหวาน มะเขือเทศลูกใหญ่ ผ่าตามขวางควักเอาใส้ออก หั่นเป็นวงๆ
  • หอมใหญ่ ผ่าครึ่งตามขวาง แล้วหั่นแว่น  แกะแยกออกเป็นวงๆ
  • ดอกกะหล่ำ บรอกโคลี ตัดแยกออกเป็นช่อเล็กๆ
  • ใบบัวบกทั้งก้าน ชุบแป้งทีละ 4-5 ใบ
  • เห็ดต่างๆ ดอกแค แยกเป็นดอกๆ
  • ดอกโสน ดอกขจร เป็นช่อๆ
  • ถั่วพู ข้าวโพดอ่อน ใช้ทั้งฝัก
  • ผักบุ้งนา เด็ดเอาแต่ยอด ฯลฯ

วิธีทำ

  • ผสมแป้งกับเกลือป่น ใส่น้ำเย็นจัด คนให้เข้ากันจนแป้งเนียน (อย่าให้เหลวหรือข้นเกินไป) นำผักต่างๆมาชุบแป้ง ลงทอดในน้ำมัน ไฟปานกลางให้เหลืองกรอบ (ต้องทอดทีละชิ้น เพราะจะได้สุกพร้อมกัน) ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน รับประทานกับน้ำจิ้มไก่หรือซอสมะเขือเทศ

ข้อแนะนำ

สามารถนำดอกไม้บางชนิดมาทอดรับทานได้ แต่ต้องเป็นดอกไม้ปลูกเอง และแน่ใจว่าไม่มีสารพิษ เช่น กุหลาบ เฟื่องฟ้า ลีลาวดี อัญชัน ดอกเข็ม บัวหลวง


ตะโก้ทับทิบสยาม


ส่วนผสม

ทับทิมกรอบ                       1/2 กิโลกรัม
แป้งข้าวโพด                      1/4 ถ้วยตวง
แป้งมัน                               1/2 ถ้วยตวง
น้ำลอยดอกไม้              1 - 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย                  1- 3/4 ถ้วยตวง


ส่วนผสมหน้ากะทิ

ข้าวโพด                                6 ช้อนโต๊ะ
เกลือ                                  1/2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย                         1 ช้อนชา
กะทิ                                       3 ถ้วยตวง
(มะพร้าวขูดขาว 300 กรัม ใส่น้ำ 2 ถ้วยตวง)


วิธีทำ

  • ผสมแป้งทั้ง 2 ชนิดเข้าด้วยกัน ใส่น้ำลอยดอกมะลิ น้ำตาล คนให้เข้ากัน นำไปตั้งไฟ กวนให้ไฟแรง พอเริ่มข้นลดไฟลงจนเหนียว ใส่ทับทิมกรอบยกลง เทใส่ถาดประมาณ 1/2 ถาด ปาดหน้าให้เรียบ
  • ผสมแป้ง เกลือ น้ำตาลทราย ใส่กะทิคนให้เข้ากัน ตั้งไฟกวนใช้ไฟปานกลาง พอเริ่มข้นดับไฟคนต่อไป เทหน้าขนมลงบนตัวขนมโดยเทหน้าให้เรียบ

ข้อแนะนำ

ทั่วไปแล้วเมื่อนึกถึงตะโก้ คนทั่วไปจะนึกถึงขนมที่มีส่วนผสมของกะทิห่อใบเตยทรงสี่เหลี่ยม แต่วิธีการที่แนะนำนี้เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับตะโก้ เพิ่มความแปลกใหม่ แต่รสชาติก็ยังคงเป็นตะโก้อยู่ อาจจะเปลี่ยนจากทับทิม กรอบเป็นข้าวโพด เผือก หรืออื่นๆ เพื่อสร้างความเเปลกใหม่


วิธีทำทับทิมกรอบ คลิก


ทับทิมกรอบ



ส่วนผสม

แป้งมัน                                 1/2 ถ้วยตวง
แป้งท้าวยายม่อม                     2 ช้อนโต๊ะ
แห้วดิบหั่นเต๋าเล็กๆ                  1 ถ้วยตวง
เนื้อมะพร้าวกะทิหั่นชิ้นพอคำ   1 ถ้วยตวง
(หรือจะเป็นมะพร้าวอ่อนก็ได้)
น้ำตาลทราย                            1 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า                                    1 ถ้วยตวง
หัวกะทิอบควันเทียน                 1 ถ้วยตวง
(มีขายสำเร็จรูป)
เกลือป่น                                 1/4 ช้อนชา
สีผสมอาหารสีแดง                 1/2 ช้อนชา
(หรือจะใช้สีอื่นๆ ตามชอบก็ได้)
น้ำแข็งบด 





วิธีทำ
  • ผสมน้ำตาลทรายกับน้ำ 1 ถ้วย นำไปต้มให้น้ำตาลละลายเหนียวเป็นน้ำเชื่อม พักไว้
  • ผสมกะทิอบควันเทียนกับเกลือป่นคนให้เกลือละลายเข้ากัน พักไว้
  • ละลายสีกับน้ำ 1/2 ถ้วย นำแห้วลงไปแช่ในสี ทิ้งไว้ให้แห้วติดสีดีแล้ว ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
  • ผสมแป้งมันกับแป้งท้าวยายม่อม ร่อนให้เข้ากัน นำแห้วมาคลุกกับแป้ง ขณะคลุกให้พรมน้ำใส่เล็กน้อยเพื่อให้แป้งติดดี คลุกไปจนแป้งติดหนาพอ แล้วร่อนเอาเศษแป้งออก
  • เอาน้ำใส่หม้อต้มเดือด นำแห้วที่คลุกแป้งเสร็จแล้วลงต้มให้สุกจนแป้งเป็นเนื้อใสๆ ตักขึ้นแช่น้ำเย็น
  • วิธีรับประทาน ตักทับทิบใส่ถ้วย ใส่เนื้อมะพร้าวกะทิหรือมะพร้าวอ่อน ใส่น้ำกะทิ น้ำเชื่อม คนให้เข้ากัน ใส่น้ำแข็งรับประทานได้เลย (อาจจะเพิ่มขนุนฉีกเป็นเส้นยาว หรือนำทับทิมไปผสมกับของหวานอื่นๆ เช่น ลอดช่อง ทานคู่กับไอศกรีม เป็นต้น เพื่อเพิ่มความอร่อยค่ะ)


ข้าวโพดอบเนย



ส่วนผสม

ข้าวโพดหวาน                            2 ถ้วยตวง
(ต้มสุกแล้วแกะออกเป็นเม็ดๆ)
เนย                                             2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย                               2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น                                    1/4 ช้อนโต๊



วิธีทำ
  • เอาเม็ดข้าวโพดใส่หม้อ ใส่เนย ยกขึ้นตั้งไฟ พอเนยละลายใส่น้ำตาลทราย เกลือป่น คนจนน้ำตาลทรายละลาย ยกลงตักใส่ถ้วยรับประทานได้ (อาจจะใส่มะพร้าวอ่อน เพิ่มรสชาติก็ได้ค่ะ)

ขนมปังปิ้งนมเนย


ส่วนผสม

ขนมปังแผ่น (แบบแผ่นหนา)            5 แผ่น
มาการีน หรือเนย                            3 ช้อนโต๊ะ
นมข้นหวาน                                    5 ช้อนโต๊ะ




วิธีทำ

  • ปิ้งขนมปังบนเตาถ่าน ไฟอ่อนๆ ให้เหลืองหอมทั้งสองด้าน นำออกมาทาเนยให้ทั่ว 1 ด้าน (ให้ทาขณะขนมปังยังร้อนอยู่ ถ้าขนมปังเย็นเเล้วเมื่อทาเนยเสร็จให้อังไฟอีกรอบให้เนยละลายเล็กน้อย) ตัดขนมปังเป็นชิ้นพอคำ วางเรียงใส่จานหงายด้านที่ทาเนยขึ้น แล้วราดด้วยนมข้นหวาน รับประทานได้เลย (อาจจะเพิ่มหน้าช็อคโกแลต สังขยา หมูหยอง น้ำพริกเผา หรือหน้าอื่นๆ ได้ตามชอบ)





เปาะเปี๊ยะทอด



ส่วนผสม

แผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะ (แผ่นโรตีสายไหมก็ได้ค่ะ)          20 แผ่น
หมูบด                                                                         1 ถ้วยตวง
ถั่วงอก                                                                        1 ถ้วยตวง
วุ้นเส้นแช่น้ำให้นิ่มแล้วตัดสั้นๆ                                   1 ถ้วยตวง
เห็ดหอมแห้งแช่น้ำให้นิ่มหั่นเส้นบาง                        1/2 ถ้วยตวง
เห็ดหูหนูซอย                                                           1/2 ถ้วยตวง
แครอทขูดเส้น                                                         1/2 ถ้วยตวง
กะหล่ำปลีซอย                                                         1/2 ถ้วยตวง
รากผักชี                                                                      2 ราก
กระเทียม                                                                     5 กรีบ
พริกไทยเม็ด                                                               5 เม็ด
ซีอิ๊วขาว                                                                     1 ช้อนชา
น้ำมันพืช                                                                    2 ถ้วยตวง
แป้งมันสำปะหลัง                                                       1 ช้อนโต๊ะ
น้ำจิ้มไก่ หรือ บ๊วยเจี่ย (ตามชอบ)
ผักแกล้ม (ผักกาดหอม, โหระพา, ผักชี)


วิธีทำ


  • โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทยเม็ดให้ละเอียด ตั้งกระทะใส่น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ ใส่รากผักชี กระเทียม พริกไทยลงไปผักให้หอม ใส่เนื้อหมู ผัดไม่ให้จับกันเป็นก้อน ใส่เห็ดหอม เห็ดหูหนู กระหล่ำปลี แครอท ถั่วงอก วุ้นเส้น ซีอิ้วขาว ผัดให้เข้ากันพอผักสลบ ยกลงรอให้เย็น
  • วิธีห่อ ละลายแป้งมันให้น้ำ 1/3 ถ้วย วางแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะบนเขียง ตักไส้ใส่ตรงกลางเป็นแนวยาว พับริมแป้งด้านยาว 1 ครั้ง แล้วพับซ้าย-ขวา จากนั้นม้วนไปจนเกือบสุด ใช้น้ำแป้งมันทาที่ปลายแผ่นแป้งเพื่อเป็นกาวให้แผ่นแป้งติดกัน แล้วม้วนต่อจนสุด
  • เมื่อห่อครบทุกแผ่นแล้วนำมาทอดในน้ำมัน (ไฟปานกลาง) พอแป้งเหลืองกรอบตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน ใช้กรรไกรตัดเป็นท่อนพอคำ รับประทานกับน้ำจิ้มและผักแกล้ม

ข้อแนะนำ

ถ้าทำขายปริมาณมากๆ แผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะและเปาะเปี๊ยะที่ห่อแล้วรอทอดอยู่ ต้องคลุมด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำบิดหมาดๆไว้ตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้แป้งแห้ง เพราะถ้าแป้งแห้งเมื่อนำไปทอดจะแตกและไหม้เร็ว


ขนมแพนเค้ก



ส่วนผสม

แป้งแพนเค้กสำเร็จรูป              2 ถ้วยตวง
นมสดรสจืด                             1 ถ้วยตวง
ไข่ไก่                                       1 ฟอง
ลูกเกด                                     2 ช้อนโต๊ะ
เนย หรือมาการีน                     2 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ
  • ผสมแป้ง นมสด ไข่ไก่ คนให้เข้ากันจนเนียน
  • กระทะก้นแบนตั้งไฟ ใส่เนยให้เนยให้เนยละลาย ตักแป้งประมาณ 1 ทัพพี เทลงทอด (ถ้ากระทะใบใหญ่ก็สามารถทอดทีละหลายชิ้นได้ โดยเทเเป้งลงเป็นหย่อมๆ อย่าให้ติดกัน) ขณะทอดให้โรยลูกเกดลงบนหน้าด้านที่ยังไม่ทอด เมื่อสุกด้านหนึ่งแล้วกลับอีกด้านทอดให้สุกทั้งสองด้าน ตักขึ้นรับประทานอุ่นๆ

ข้อแนะนำ

อาจใช้ข้าวโพดต้ม หรือไส้กรอกหรือปูอัด โรยหน้าได้เหมือนกันหรือไม่โรยหน้าแต่ราดด้วยแยมหรือช็อคโกแลต หรือนมข้นหวานหลังจากทอดเสร็จแล้ว สามารถอร่อยได้หลายแบบ


กระท้อนลอยแก้ว



ส่วนผสม

กระท้อนปุยฝ้าย               3 ลูก
น้ำตาลทราย                   2 ถ้วยตวง
เกลือป่น                       1/2 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า                           2 ลิตร


วิธีทำ

  • น้ำเปล่า 1 ลิตร ใส่หม้อตั้งไฟต้นจนเดือด ใส่เกลือป่นลงไปคนให้ละลาย แล้วยกลงพักไว้ให้เย็น
  • ปอกเปลือกกระท้อน แล้วบั้งตามแนวยาวรอบๆลูก (ห่างกัน 1/2 ซม.) เหลือตรงจุกกับก้นไว้อย่าให้ขาดออกจากกัน เสร็จแล้วใช้นิ้วมือบีบตรงหัวกับก้น บีบให้ลูกกระท้อนเป็นทรงแบนๆ เพื่อให้เนื้อแยกออกห่างกัน หรือจะแกะสลักเนื้อกระท้อนเป็นรูปดอกไม้ใบไม้เพื่อเพิ่มความสวยงานก็ได้ตามต้องการ เสร็จแล้วเอาลงไปแช่น้ำเกลือ ทำจนครบทั้ง 3 ลูก ดองทิ้งไว้ในน้ำเกลือ 2 วัน
  • เมื่อครบ 2 วันแล้ว เอากระท้อนที่ดองไว้ในน้ำเกลือออกมาล้างน้ำสะอาด 1 ครั้ง เทน้ำเกลือทิ้ง เอาหม้อใส่น้ำ 1 ลิตรกับน้ำตาล ต้มจนเดือดน้ำตาลละลาย ยกลงรอให้เย็น แล้วเอากระท้อนแช่ลงไปในน้ำเชื่อมที่เย็นแล้ว ดองในน้ำเชื่อมทิ้งไว้อีก 2 วัน
  • เมื่อครบ 2 วัน นำไปแช่ในตู้เย็น รับประทานเย็นๆทั้งเนื้อและน้ำจะจัดใส่ถ้วยเป็นลูกๆ หรือหั่นออกเป็นชิ้นๆ ตามรอยบั้งก็ทานได้สะดวกดี ถ้ารสชาติหวานไปก็เติมน้ำแข็ง

ข้อแนะนำ

ระยะเวลาในการดองอาจมากน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับขนาดและรสชาติของลูกกระท้อน และน้ำที่ดองต้องให้ท่วมลูกกระท้อน